วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เวย์น มาร์ก รูนีย์


  1. เวย์น รูนีย์
    นักฟุตบอล
  2. เวย์น มาร์ก รูนีย์ เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษ ปัจจุบันเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก และฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ตำแหน่งกองหน้า และยังเป็นกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอีกด้วย
  3. เกิดเมื่อ 24 ตุลาคม 2528 (อายุ 29)
  4. ส่วนสูง 1.76 ม.
  5. คู่สมรส คอลีน รูนีย์ (สมรส พ.ศ. 2551)
  6. เงินเดือน18.1 ล้าน USD (พ.ศ. 2556)
  7. ทีมปัจจุบัน ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ (กองหน้า), สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เบอร์10 / กองหน้า)
  8. ทายาท ไค เวย์น รูนีย์

          เวย์น มาร์ค รูนี่ย์ 1 ใน 3 ลูกชายของบ้านรูนี่ย์  เป็นนักเตะที่มีความมหัศจรรย์มากที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษในยุคนี้ เหนือยิ่งกว่าไมเคิล โอเว่น กองหน้ามหัศจรรย์ของทีมลิเวอร์พูลเสียอีก และที่ตลกร้ายไปกว่านั้นคือทั้งคู่แจ้งเกิดในสโมสรร่วมเมืองเดียวกัน แต่เป็นคนละสี
         โอเว่น คือขวัญใจสีแดงของลิเวอร์พูล ขณะที่รูนี่ย์ คือความภาคภูมิใจของชาวเอฟเวอร์โตเนี่ยนสีน้ำเงิน
         รูนี่ย์ มีบ้านเกิดอยู่ในย่านคร็อกซ์เทธ และได้รับแรงบันดาลใจในการฝากตัวเป็นสาวกท๊อฟฟี่เม็นจากครอบครัว และยังคงมีใจให้กับเอฟเวอร์ตันเสมอ โดยภาพที่ประทับใจผู้คนคือการสวมเสื้อยืดที่พิมพ์ลายสกรีนว่า "Once a blue, Always a blue"
         แน่นอนว่าด้วยความรักที่มีต่อเอฟเวอร์ตัน ทำให้เจ้าหนูรูน มีความปรารถนาที่จะสวมเสื้อสีน้ำเงินเข้มลงเล่นในสนามกูดิสัน ปาร์ค ต่อหน้าชาวเอฟเวอร์โตเนี่ยนทั้งผอง และฝันนั้นของรูนี่ย์ ก็เริ่มมีเค้าลางความจริงเมื่อเขาได้รับการเซ็นสัญญาเป็นผู้เล่นในทีมเยาวชนในวันเกิดอายุครบรอบ 11 ปี อันเป็นผลพวงมาจากผลงานที่โดดเด่นสุดๆในสมัยเป็นนักเรียนโรงเรียน ลิเวอร์พูล สคูลบอยส์ และทีมเยาวชนเดอะ ไดนาโม บราวนิ่งส์
         หลังจากนั้นรูนี่ย์ ก็ใช้เวลาขัดเกลาตัวเองอยู่ในรั้วหัวใจของชาวกูดิสัน ปาร์ค และรอเวลาที่จะเปล่งประกายเป็นดาวจรัสแสงดวงใหม่ของวงการฟุตบอลอังกฤษ
         ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเทพนิยาย และความสำเร็จก็อาจมาโดยไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องราวบทแรกในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขาก็ต้องถูกจารึกไว้ เมื่อกลายเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีกได้ด้วยวัยเพียง 16 ปีกับอีก 360 วัน (ก่อนที่จะโดนแซงหน้าไปอีก 2 ครั้ง) ในวันที่ 19 ต.ค. 2002
         แต่ที่เหนือไปกว่านั้นคือประตูแรกของรูนี่ย์ มีความหมายอย่างยิ่งเพราะเป็นประตูในช่วงนาทีสุดท้ายที่ช่วยให้เอฟเวอร์ตัน เอาชนะอาร์เซนอล ที่ไม่เคยแพ้ใครมา 30 เกมได้สำเร็จ และยังเป็นประตูสุดสวยด้วยการปั่นไซด์โค้งระยะกว่า 30 หลาเข้าสามเหลี่ยมมุมบนแบบสุดอัศจรรย์อีกด้วย
        นับตั้งแต่นั้นมา รูนี่ย์ ก็ถูกจับตามองจากสื่อมวลชนในอังกฤษ และได้รับการยกย่องให้เป็นวันเดอร์คิดคนใหม่ของวงการฟุตบอล และได้รับรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำปี 2002 ด้วยเมื่อจบฤดูกาลแรก
         แต่ชีวิตของรูนี่ย์ ก็ประสบปัญหาในฤดูกาลต่อมา เมื่อเอฟเวอร์ตัน มีผลงานตกต่ำลงอย่างน่ากลัว ขณะที่รูนี่ย์ เองก็มีปัญหาอาการบาดเจ็บและฟอร์มการเล่นที่ดร็อปลงไปมาก รวมทั้งยังเริ่มมีพฤติกรรมในทางที่ไม่เหมาะสมเช่นการไปเที่ยวสถานเริงรมย์และมีรสนิยมชอบสาวงามเมืองที่มากประสบการณ์เป็นต้น
         อย่างไรก็ดี คนเมื่อถูกฟ้าลิขิตมาให้เป็นดาวประดับฟ้า อะไรจะมาหยุดนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงสุดอย่างรูนี่ย์ได้
         รูนี่ย์ กลับมาแจ้งเกิดได้อย่างยิ่งใหญ่แบบเต็มตัวในช่วงศึกยูโร 2004 โดยได้ถูกเรียกตัวจากสเวน โกรัน เอริคส์สัน ให้เข้ามาติดทีมชาติ โดยมีไมเคิล โอเว่น สตาร์รุ่นพี่เป็นคู่หู ซึ่งก่อนหน้านั้นรูนี่ย์ เคยถูกเรียกตัวติดทีมชาติมาเป็นเวลาปีเศษแล้ว โดยเกมแรกที่ได้ลงเล่นในสีเสื้อสิงโตคำรามคือเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติออสเตรเลีย ในวันที่ 12 ก.พ. 2003 และเป็นอีกครั้งที่ทำสถิติเป็นผู้เล่นทีมชาติอังกฤษที่อายุน้อยที่สุด (ก่อนจะโดนธีโอ วัลค็อตต์ วันเดอร์คิดคนต่อมาทำลายในปีกลาย)
         ในยูโร 2004 ที่โปรตุเกส รูนี่ย์ สามารถผลิตผลงานระดับเทวดาเรียกพี่ได้ และเป็นแกนนำคนสำคัญในทีมไปอย่างไม่น่าเชื่อ กลบรัศมีของดาวเด่นอย่างโอเว่นลงสนิท ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน กล้าหาญ และเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ในการเล่น
         รูนี่ย์ ยังเป็นเจ้าของสถิติผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปด้วยเมื่อทำได้ 2 ประตูในเกมกับสวิตเซอร์แลนด์ แต่ก็ถูกโยฮัน ฟอนลันเธน กองหน้าทีมชาติสวิสแก้ตัวคืนได้ในอีก 4 วันถัดมา
         ฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นของรูนี่ย์ ทำให้ทีมชาติอังกฤษมีความหวังที่จะประสบความสำเร็จในเวทีระดับชาติอีกครั้ง แต่พวกเขาก็ต้องฝันสลายเมื่อรูนี่ย์ เกิดได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับโปรตุเกส จนต้องเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ก่อนที่ทีมสิงโตคำรามจะตกรอบด้วยการพ่ายจุดโทษ
         อาการบาดเจ็บของรูนี่ย์ มีการเปิดเผยว่าเป็นอาการกระดูกเท้าแตก และต้องพักรักษาตัวอีกหลายเดือน แต่มันก็กลายเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทีมต่างๆที่จะตามล่าเจ้าหนูมหัศจรรย์คนนี้ไปร่วมทีม ขณะที่เอฟเวอร์ตัน ต้นสังกัดพยายามสุดชีวิตเพื่อจะปกป้องสมบัติล้ำค่าของแฟนบอลเอาไว้ให้ได้

        แต่ถึงจะรักเอฟเวอร์ตันแค่ไหน รูนี่ย์ ก็ไม่สามารถปฏิเสธโอกาสที่จะได้เติบโตก้าวหน้าไปอีกหลายก้าวกับทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ ซึ่งแม้ว่าเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะต้องยอมเสี่ยงซื้อนักเตะที่ยังบาดเจ็บอยู่มาด้วยค่าตัวถึงกว่า 27 ล้านปอนด์ แต่รูนี่ย์ ก็ได้ตอบแทนความไว้วางใจด้วยผลงานเหนือเมฆในเกมแรกที่ลงสนามด้วยการยิงแฮตทริกทันทีในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
        กระนั้นฟอร์มการเล่นของเขาก็ยังไม่ค่อยมีความสม่ำเสมอมากนัก เนื่องจากแมนฯ ยูไนเต็ด เองก็มีปัญหาความไม่ลงตัวโดยเฉพาะรุด ฟาน นิสเตลรอย กองหน้าตัวค้ำที่มีปัญหาคาใจกับทางคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกดาวรุ่งของทีมจนเป็นชนวนบาดหมางและลงเอยที่กองหน้าชาวฮอลแลนด์ ที่เป็นดาวซัลโวประจำทีมต้องย้ายออกไปในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา
        แต่การย้ายออกไปของฟาน นิสเตลรอย กลับเป็นผลดี เมื่อรูนี่ย์ ได้มีบทบาทในฐานะหัวใจสำคัญในเกมรุกอย่างจริงจัง โดยมีหลุยส์ ซาฮา เป็นคู่หูคนใหม่ที่เข้าขากันได้ดี รวมถึงโรนัลโด้ ที่เคยมีข่าวหมางใจกันในช่วงฟุตบอลโลก 2006 ก็จับมือผนึกกำลังกันได้อย่างน่ากลัว
        สำหรับฟุตบอลโลก 2006 นั้นเป็นอีกครั้งที่รูนี่ย์ ต้องผิดหวังด้วยฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ เนื่องจากก่อนหน้าจะเริ่มฟุตบอลโลกที่เยอรมันไม่ถึง 2 เดือน เกิดได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าแตกที่เดิมและต้องเร่งรักษาตัวท่ามกลางการเอาใจช่วยของแฟนบอลชาวผู้ดี แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝัน
        ขณะที่ตัวเก๋าๆ อย่างพอล สโคลส์ และไรอัน กิ๊กส์ ก็เรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกครั้งจนพลพรรคอสูรแดงไล่ต้อนคู่แข่งทั่วราชอาณาจักรและมีลุ้นประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์พรีเมียร์ชิพอีกครั้งในฤดูกาลนี้
        โดยที่มี "คิง" คนใหม่ของโอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างเวย์น รูนี่ย์ เป็นกำลังสำคัญ ..
        ฤดูกาลที่ 2008/09 ในขณะที่แดนหน้าของผีแดง มีทั้งคาร์ลอสเตเบซ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอพ เป็นตัวเลือก รวมถึง โรนัลโด้ที่ท่านเซอร์จับลงเล่นเป็นกองหน้าในบางครั้ง แต่รูนีย์ ก็ยังเป็นตัวเลือกหลัก ของทีมอยู่ดี
       จุดเริ่มต้นของรูนี่ย์ในฤดูกาลนี้ เขาสามารถทำประตูได้ในนาทีที่ 90 สำหรับการแข่งขันคอมมูนิตี้ชิลด์ปี  2009 และก็ยิงประตูในเกมที่แพ้ให้กับเชลซี เขายิงเพียงประตูเดียวในนัดเปิดฤดูกาล 2009-2010 นัดที่พบกับเบอร์มิ่งแฮมซิตี้
       ในวันที่ 29 สิงหาคม ยูไนเต็ดพบกับอาร์เซน่อลที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด  รูนี่ย์ตีเสมอให้กับทีมด้วยลูกจุดโทษ หลังจากอังเดร อาร์ชาวินสกัด  จบเกมที่ 2-1 จากการที่อบู ดิยาบี้ทำเข้าประตูตัวเอง วันที่ 28 พฤศจิกายน 2009 รูนี่ย์สามารถทำแฮตทริกเป็นครั้งแรกในรอบสามปีในชัยชนะ 4-1 นัดที่พบกับปอร์ทสมัธ ซึ่งสองประตูมาจากลูกจุดโทษ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2009 เขาได้รับรางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ในเกมที่พบกับฮัลล์ ซิตี้ เขามีส่วนร่วมกับทุกประตู
        เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2010 แมนฯ ยูไนเต็ดพ่ายแพ้ให้บาเยิร์น มิวนิคในรอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกที่อลีอันซ์ อารีน่า รูนี่ย์มีปัญหากับข้อเท้าในนาทีสุดท้ายทำให้ตัวเขาไม่ค่อยราบรื่นนัก  ในขณะที่เสือใต้ทำได้สองประตู  มีความกังวลในอาการบาดเจ็บเล้กน้อยและเขาจะพลาดลงสนามประมาณ 2-3 สัปดาห์
       ฤดูกาล 2010-2011 วันที่ 2 เมษายนรูนี่ย์ทำแฮตทริกในเกมที่เอาชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-2 ในการออกไปเยือน  นี่เป็นแฮตทริกครั้งที่ 5 ของเขาในเสื้อสีแดง เป้าหมายของเขาคือยิงประตูที่ 100 ในพรีเมียร์ลีก เขาคือนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ดคนที่ 3 ที่ทำประตูครบ 100 ประตูโดยมีไรอัน กิ๊กส์และพอล สโคลส์
       มีข่าวที่เวย์น รูนี่ยไปสบถต่อหน้ากล้องทำให้สมาคมฟุตบอลอังกฤษต้องปรับเงินและห้ามลงสนาม 2 นัด
       ฤดูกาล 2011-2012 เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการทำประตูแรกกับเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน  รูนี่ย์เล่น1-2กับแอชลี่ย์ ยังก่อนที่จะจบประตูได้จากนอกกรอบเขตโทษ ทำประตูที่สองได้ในเกมกับทอตแน่ม ฮอตสเปอร์จากลูกโหม่งในเดือนกันยายน เขาทำ 150 ประตูให้กับยูไนเต็ด  แฮตทริกแรกของฤดูกาลคือเกมที่เอาชนะอาร์เซน่อล 8-2 เขาเป็นแมนออฟเดอะแมตช์ในเกมนั้น 2ประตูจากลูกฟรีคิก 1ประตูจากลูกจุดโทษและแอสซีสต์ให้นานี่ทำประตู ตามมาด้วยแฮตทริกในเกมถัดมาที่ออกไปเยือนโบลตัน วันเดอเรอร์ส 5-0 ในวันที่ 10 กันยายน เขาจึงกลายเป็นนักเตะคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่แฮตทริกติดต่อกันอย่างนี้
       วันที่ 4 มีนาคม 2012 รูนี่ย์ทำประตูแรกในเกมท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ที่ไวท์ฮาร์ทเลน รวมแล้วเขาทำไป 196 ประตูและเขาทำประตูได้อีกครั้งในเกมถัดไปกับแอธเลติก บิลเบา
        ฤดูกาล 2012-2013 แม้จะเปิดฤดูกาลพบกับเอฟเวอร์ตัน รูนี่ย์ถูกให้นั่งสำรองในเกมที่สองกับฟูแล่มเพราะการมาของโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ขวัญใจคนใหม่  หลังจากชินจิ คากาวะลงมาในนาทีที่ 68 รูนี่ย์ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวาอย่างรุนแรงโดยฮูโก้ โรดาเยก้าเป็นคนทำ ทำให้เขาต้องพักยาวร่วมเดือน รูนี่ย์กลับมาในวันที่ 29 กันยายนนัดที่แพ้สเปอร์ 3-2 ในวันถัดมาเขาได้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่เข้ามาสนับสนุนในนัดที่เอาชนะ CFR ครูจ 2-1 ในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก และยิงประตูแรกในบ้านได้นัดที่พบสโต๊ควันที่ 20 ตุลาคม
       ฤดูกาล 2013-2014  วันที่ 5 กรกฎาคม 2013 เดวิด มอยส์ผู้จัดการทีมคนใหม่ประกาศว่ารูนี่ย์ไม่ได้มีไว้ขาย หลังเชลซี,อาร์เซน่อล,เรอัล มาดริด,ปารีส แซงต์ แชร์กแมงกำลังให้ความสนใจ และเชลซีก็ยื่นข้อเสนอเข้ามาอีกครั้งแต่ก็ถูกปฏิเสธเหมือนเดิม
       รูนี่ย์ได้ลงสนามนัดที่เสมอกับเชลซี 1-1 พร้อมกับทำผลงานได้ดีมากราวกับเป็นแมนออฟเดอะแมตช์ได้เลย หลังจากนั้นก่อนจะเตะนัดถัดไปที่พบกับลิเวอร์พูลเขาได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจากการปะทะกับฟิล โจนส์ในสนามฝึกซ้อม ทำให้พักยาว เพราะบาดแผลฉกรรจ์มาก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น